การมีลูกก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามมาจำนวนมาก บางคนมองหารายได้เสริมจากเล่นพนันออนไลน์ แต่ก็พอจะผ่อนคลายลงบ้างจากเงินสงเคราะห์บุตรของประกันสังคม เงินอุดหนุนบุตรของโครงการเงินที่ช่วยอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด และมีหลาย ๆ คนสงสัยว่าต่างกันตรงไหน ที่เหมือนกันก็คือ เป็นเงินช่วยเหลือเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ขวบ และต่างกันตรงที่เป็นคนละโครงการ จำนวนเงินที่ได้ต่างกันและให้ความช่วยเหลือคนละกลุ่ม ดังนี้
- เงินสงเคราะห์บุตร เป็นของประกันสังคมกระทรวงแรงงานจะให้แก่ผู้ประกันตน ม. 33 และ ม.39 ซึ่งต้องจ่ายเงินสมทบไม่ต่ำกว่า 12 เดือนภายในเวลา 36 เดือน ก่อนวันที่ได้สิทธิ์ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไปจะได้เดือนละ 800 บาท
– เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลจะให้สิทธิ์กับเด็กที่ครอบครัวยากจน สมาชิกในห้องครัวต้องมีรายได้เฉลี่ยน้อยกว่า 1 แสนบาท/คน/ปี และไม่ได้สิทธิประโยชน์ไม่ได้สวัสดิการจากหน่วยงานภาครัฐจะได้เงินเดือนละ 600 บาท
ผู้ประกันตนมีสิทธิ์ที่จะได้รับความช่วยเหลือ 2 ทาง คือจากเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดและเงินสงเคราะห์บุตร รวมกันแล้วจะได้เงินช่วยเหลือต่อเดือนเป็นจำนวน 1,400 บาท ต่อบุตร 1 คน
ใครลงทะเบียนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดได้บ้าง
ผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนรับของเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดให้ตรวจสอบคุณสมบัติของบุตรและตนเองว่าสามารถลงทะเบียนได้หรือไม่
เด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ์รับเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
- ต้องมีสัญชาติไทย
– แม่พ่อของเด็กต้องมีสัญชาติไทยหรือคนใดคนหนึ่งที่มีสัญชาติไทย
– เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไปจนครบ 6 ปีเต็ม
– อาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่มีรายได้น้อย
– ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานเอกชนหรือรัฐ
ผู้ปกครองที่มีสิทธิ์ลงทะเบียนเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด
- มีสัญชาติไทย
– เป็นผู้ที่รับเด็กแรกเกิดไว้ในอุปการะไม่ใช่พ่อแม่ก็ได้
– เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
- อยู่ในห้องครัวที่รายได้น้อย คือ มีสมาชิก ในครอบครัวที่อาศัยอยู่ติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 180 วัน ใน 1 ปี มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100, 000 บาท ต่อคน/ปี ( นำได้ทั้งครัวเรือนใน 1 ปี มาหารด้วยจำนวนสมาชิกในครัวเรือน )
– มีประกันสังคมหรือไม่มีก็ลงทะเบียนได้
– รับราชการก็สามารถลงทะเบียนได้